1. ค่าไปรษณีย์ ค่าไปรษณีย์ขึ้นอยู่กับจำนวนรายชื่อแขก ค่าแสตมป์มักเป็นค่าใช้จ่ายที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ค่อยนึกถึง และจะมีราคาเพิ่มขึ้นถ้าขนาดบัตรเชิญมีขนาดใหญ่หรือมีรูปร่างแปลกที่อาจต้องมีค่าไปรษณีย์เพิ่มเติม และอย่าลืมถึงการรวมค่าแสตมป์ของจดหมายตอบกลับด้วย การส่งบัตรเชิญถ้าแยกเป็นแต่ละซองอาจไม่แพงแต่เมื่อนำมาร่วมกันและแขกมีจำนวนมากก็จะทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นมากได้เช่นกัน 2. โคมไฟ โคมไฟอาจเป็นสิ่งที่หลายๆ คู่แต่งงานมองข้ามความสำคัญ แต่ก็มีบางคู่แต่งงานที่เช่าสถานที่จัดงานที่เป็นแบบโบราณและมีแสงสว่างไม่เพียงพอ โคมไฟที่ประดับอยู่ก็มีแค่แสงสลัวๆ ดังนั้นระหว่างสำรวจสถานที่แต่งงานควรคำนึงถึงเรื่องแสงสว่างเอาไว้ด้วยโดยเฉพาะที่พื้นที่สำหรับเต้นรำหรือที่เล่นดนตรี พยายามจดจำไว้ว่าแสงคือสิ่งจำเป็นสำหรับงานกลางคืน และสามารถสร้างค่าใช้จ่ายได้สูงสำหรับการจัดตั้งโคมไฟหรือจัดแสงไฟเพื่อเพิ่มความสว่างให้งานมากขึ้น ดังนั้นโคมไฟหรือสิ่งที่ช่วยให้แสงสว่างที่เพียงพอกับงานแต่งงานจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม 3. อาหารสำหรับผู้ให้บริการต่างๆ ในงานแต่งงาน คู่แต่งงานรู้ดีถึงการให้บริการอาหารแก่แขกที่มาในงาน แต่ส่วนใหญ่อาจมักไม่นึกถึงการจัดเตรียมอาหารสำหรับผู้ที่ถูกว่าจ้างมาให้บริการในงานแต่งงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นวงดนตรี ดีเจ ช่างภาพ ช่างวีดีโอ เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรจำไว้ว่าพวกเขาต้องมีช่วงเวลาพักและต้องทานอาหารด้วยเหมือนกัน 4.
ความรักอาจไม่ใช่เรื่องของเงินทอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแต่งงานและการสร้างครอบครัวนั้นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยเลยล่ะครับ การวางแผนแต่งงานและการตั้งงบแต่งงานจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคู่รักทุกคู่ที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะทุกขั้นตอนล้วนมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมให้พร้อม โดยเริ่มจากการ ตั้งงบก่อนแต่งงาน ทั้งค่าใช้จ่ายระยะสั้นอย่างการจัดงานแต่งงาน และค่าใช้จ่ายระยะยาวหลังจากเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่วันนี้เราจะมาโฟกัสกันที่ค่าใช้จ่ายระยะสั้นหรือให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การตั้งงบแต่งงานนั่นเองล่ะครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่อาจต้องใช้เวลาเก็บออมกันล่วงหน้าหลายปีเลยทีเดียว 1.