ฐาน ข้อมูล หนังสือ เรียน

ขับ รถ ให้

ขณะขับบนถนนโล่งๆ ไม่ควรเร่งจนระยะชิดคันหน้าแล้วเบรก ควรรักษาระดับความเร็วให้ใกล้เคียงรถที่อยู่เลนเดียวกัน ช้าหรือเร็วตามๆ กันไป และมองสถานการณ์ล่วงหน้าอีกซัก 4-5 ช่วงคันรถ เมื่อเห็นว่ารถที่อยู่ไกลๆ เบรก เราก็ยกคันเร่งจนความเร็วลดระดับลงมา คล้ายชะลอความเร็วก่อนรถที่อยู่หน้าเราจะเบรก จังหวะนั้นค่อยๆ ปล่อยรถให้ไหลตามแรงเฉื่อย และอย่าลืมใช้ความเร็วตามกฏหมายกำหนดด้วยนะครับ การขับรถวิธีนี้ ช่วยประหยัดประมาณ 1-2% 8. ไม่เปลี่ยนเลน หรือขับแทรกบ่อยๆ เพราะจังหวะนั้นต้องใช้กำลังเครื่องเพื่อเร่งความเร็วให้เท่ารถในเลนที่เราขับไปแทรก หากจำเป็นควรเว้นระยะห่างรถข้างหน้าไว้มากหน่อย เพื่อมีระยะปล่อยไหล แล้วพอได้จังหวะเปลี่ยนเลนก็เร่งเพียงเบาๆ ความเร็วจะไม่ต่างกันมาก ทำให้ไม่ต้องใช้กำลังเครื่องมากเกินความจำเป็น จะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ประมาณ 1-2% 9. ศึกษาเส้นทางลัด-เลี่ยงรถติด ฟังรายงานจราจร และเมื่อจอดรถทำธุระก็ดับเครื่องทุกครั้ง เช่น เติมน้ำมัน, ซื้อกับข้าว, จอดแต่งหน้าในห้างหรือสถานที่เที่ยวต่างๆ ฯลฯ ประหยัดประมาณ 5-10% 10. หลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักอันเป็นภาระของเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น เช่น ล้อโตๆ เครื่องเสียงชุดใหญ่ ชุดแต่งบางประเภท รวมถึงสัมภาระไม่จำเป็น ช่วยประหยัดประมาณ 3-5% ทั้ง 10 วิธีเบื้องต้นนี้ เป็นเพียงตัวช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อฝึกฝนบ่อยๆ นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังเป็นการรักษาอุปกรณ์ ชิ้นส่วนอื่นๆ ของรถยนต์ให้สึกหรอน้อยลง และทำให้เรามีนิสัยการขับรถที่ดี ใจเย็นลงอีกด้วยนะครับ แม้ว่าแต่ละข้อจะได้อย่างละ 1% หรือ 5% แต่ถ้าทำได้มากกว่า 5 ข้อขึ้นไป รวมแล้วก็ประหยัดได้มากกว่า 5% ไม่จำเป็นต้องเสียเงินสามถึงสี่พันบาทไปกับการติดตั้งอุปกรณ์ที่โฆษณาที่บอกว่าประหยัดน้ำมันได้ถึง 5-10% อีกด้วยครับ

ขับรถให้ปลอดภัย

ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ หลายครั้งที่การใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถทำให้เกิดอุบัติเหตุทั้งแก่ตัวเราเองและผู้อื่น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องระวังอยู่เสมอก็คือเรื่องของการใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ ที่ไม่ว่าจะเป็นการหยิบขึ้นมาเช็คโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือพูดคุยโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะในช่วงเวลาที่เราใช้โทรศัพท์จะทำให้ความสนใจในการขับขี่ลดลง และนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ นั่นเอง 4. ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด หนึ่งในสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่เกิดอุบัติเหตุก็คือการทำผิดกฎจราจร ที่นำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบทั้งต่อสภาพจิตใจ ร่างกายและทรัพย์สิน เพราะฉะนั้นในการขับขี่ควรที่จะศึกษากฏจราจรให้ละเอียดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะช่วยป้องกันตนเองและผู้โดยสาร รวมถึงรถคันอื่น ๆ ให้ปลอดภัยและเดินทางได้อย่างราบรื่นมากที่สุด 5. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและอุบัติเกิดขึ้นมากมายจากการเมาแล้วขับ ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลง ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ในขณะขับขี่รถยนต์ไม่ว่าจะเป็นทางระยะใกล้หรือไกลก็ตาม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเดินทางมากยิ่งขึ้น ในกรณีที่มีการดื่มแอลกอฮอล์ ควรมีผู้อื่นมาขับแทนหรือหยุดพักผ่อนก่อน เพื่อให้พร้อมมากที่สุดในการขับขี่ 6.

มีมารยาทการขับขี่ มารยาทเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากบนท้องถนน ในการขับขี่รถยนต์ ควรเป็นไปด้วยการมีสติและให้เกียรติผู้อื่นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาทหรืออุบัติเหตุอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้จากความไม่ระวังหรือแสดงมารยาทในการขับขี่รถยนต์ที่ส่งผลกระทบไปจนถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ 7. ไม่ขับรถเกินที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะเร่งรีบหรือต้องการไปให้ถึงจุดหมายเร็วแค่ไหน ควรที่จะขับรถอยู่ในระดับปกติ ไม่เกินที่กฎหมายได้กำหนดขึ้น การขับรถเร็วเกินไปยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งต่อตัวเราและผู้อื่น ดังนั้นควรระวังในข้อนี้อยู่เสมอเพื่อให้ ขับรถอย่างปลอดภัย 8. วางแผนการหยุดพัก การเดินทางไกล สิ่งสำคัญที่ควรวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ คือเรื่องของการหยุดพัก ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร ร้านเครื่องดื่มหรือที่พักต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถบริหารจัดการเวลาและมีความพร้อมด้านการขับขี่มากที่สุด 9. ตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนการเดินทาง เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมาก สำหรับการตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนการเดินทาง เพื่อให้คุณมั่นใจว่ารถของคุณมีประสิทธิภาพในการเดินทางไกล และถ้าหากมีจุดบกพร่องส่วนใดจะได้รับแก้ไขให้ทันท่วงที ไม่เกิดความเสียหายและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ 10.

10 วิธี ขับรถอย่างไรให้ประหยัด รับสถานการณ์น้ำมันแพง การเตรียมความพร้อม เพื่อรับกับสถานการณ์น้ำมันที่แพงขึ้นในปัจจุบันมีอยู่หลายวิธี นอกจากการหมั่นตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ ลมยาง หรืออื่นๆ แล้ว ยังมีวิธีง่ายๆ ที่เราควรฝึกให้เป็นนิสัยทุกครั้งในการขับรถ เพื่อเป็นแนวทางให้ประหยัดน้ำมันกับเงินในกระเป๋าของเราครับ 10 วิธีการขับรถต่อไปนี้ เป็นเพียงเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ แต่หากปฏิบัติได้ ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ไม่มากก็น้อยนะครับ (ความประหยัดที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์มาจากการประมาณนะครับ) 1. เริ่มจากการสตาร์ตเครื่องรถยนต์ ไม่ต้องรออุ่นเครื่องนานเกินไป เพราะเป็นการเปลืองโดยใช่เหตุ วอร์มซักครึ่งนาทีก็ค่อยๆ ขับออกไปอย่างช้าๆ รถรุ่นใหม่ระบบหล่อลื่นดีกว่าสมัยก่อนแล้วครับ วิธีนี้ประหยัดได้ประมาณ 1-2% 2. ออกรถ หรือเร่งนิ่มๆ ออกแรงบนคันเร่งแผ่วๆ เมื่อรถเคลื่อนที่สักระยะหนึ่งก็ค่อยๆ ค้างระดับนั้นไว้ ให้เครื่องยนต์เปลี่ยนจังหวะเกียร์เองไปเรื่อย หรือง่ายๆ คือ เร่งไม่ควรเกิน 2, 000-2, 500 รอบ/นาที (ยกเว้นหากมีความจำเป็นต้องใช้อัตราเร่งมากๆ) วิธีนี้ประยุกต์ใช้ได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติและธรรมดา ช่วยประหยัดได้ประมาณ 2-5% 3.

มีเบอร์ฉุกเฉินติดตัวตลอด อีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือคุณควรมีเบอร์โทรฉุกเฉิน ที่ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ตรงของสถานีตำรวจ, เบอร์โทรศัพท์ตรงของประกันภัย และเบอร์คนใกล้ตัวคุณ เช่น ญาติพี่น้อง, คนในครอบครัว หรือเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ เพื่อเวลาที่คุณจะต้องเจอเหตุฉุกเฉินแบบกะทันหันระหว่างทาง คุณจะสามารถติดต่อเบอร์เหล่านี้ได้ทันที จึงถือว่า เป็นอีกหนึ่งการสร้างความปลอดภัยให้กับชีวิตคุณเมื่อต้องขับรถตอนกลางคืนได้มากขึ้น 4. สังเกตข้างทางบ้าง อีกหนึ่งเรื่องที่ถือว่าสำคัญมาก คือ การสังเกตข้างทาง ไม่ใช่เพียงแค่การมองไปด้านหน้าตรงๆ เท่านั้น แต่ควรมองทางทั้งด้านซ้ายและด้านขวาให้ดี เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น มีสัตว์ข้ามถนนแล้ววิ่งตัดหน้ารถ หรือแม้แต่คนที่เดินอยู่ข้างถนนก็อาจจะสร้างอุบัติเหตุให้กับคนขับได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าคุณรู้จักสังเกตจะทำให้คุณหลบเลี่ยงได้ทัน นอกจากนี้สิ่งกีดขวางทางที่อยู่บนท้องถนนคุณควรมองเห็นสังเกตให้ดีและหลบหลีกให้ทัน เพื่อลดการเกิดปัญหาอุบัติเหตุร้ายแรง 5. ขับให้มีระยะห่างที่เหมาะสม ช่วงเวลากลางคืนคุณควรขับรถให้มีระยะห่างจากคันหน้าที่มากพอสมควร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ เพราะช่วงเวลากลางคืนจะแสงน้อย จึงอาจจะทำให้คุณกะระยะห่างได้คลาดเคลื่อนไปจากระยะห่างที่ควรใช้ในเวลากลางวัน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือขับให้มีระยะห่างเข้าไว้ จึงจะช่วยทำให้คุณปลอดภัยได้ขึ้น 6.

ลดเสี่ยง เลี่ยงอันตราย! 5 วิธีขับรถกลางคืนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

04 เม. ย. 2565 เวลา 4:26 น. 115 ราคาน้ำมันยังคงผันผวน เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน ปตท. แนะเทคนิค "ขับรถอย่างไรให้ประหยัดพลังงาน" จะดีกว่าหรือไม่ หากเปลี่ยนรูปแบบการใช้รถเพียงเล็กน้อย ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิม ในยุคที่มีทั้งโลกระบาดและความขัดแย้งต่างๆ มากมายได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง เกิดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ของแพง ค่าครองชีพสูงขึ้น และที่สำคัญ "ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก" ยังคงมีราคาที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศไทยต้องปรับราคาขึ้น เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องเสียเงินเพื่อเติมน้ำมันมากกว่าเดิม การใช้การขนส่งสาธารณะอาจจะช่วยประหยัดเงินได้บ้างแต่ก็อาจจะไม่ได้สะดวกสำหรับทุกคน จากสถานการณ์เช่นนี้ ปตท. จึงแนะนำเทคนิคน่ารู้สำหรับผู้ใช้รถยนต์กับแนวทาง "ขับรถอย่างไรให้ประหยัดพลังงาน" เพียงปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับรถเพียงเล็กน้อย แต่จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิม 1. ไม่เหยียบเบรกกะทันหัน เพราะการเหยียบเบรกกะทันหัน หรือบ่อยเกินความจำเป็นนอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันสูงถึง 40% แล้ว ยังส่งผลเสียต่อตัวเครื่องยนต์อีกด้วย ดังนั้นเวลาขับรถควรจะสังเกตสิ่งรอบข้าง และมีสติอยู่เสมอ เพื่อจะได้ไม่ต้องเหยียบเบรกบ่อยๆ ช่วยประหยัดน้ำมัน แถมยังช่วยรักษาสภาพยาง และผ้าเบรกไม่ให้สึกก่อนเวลาได้ 2.

หมดห่วงทันทีหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพียงแค่คุณซื้อประกันรถยนต์ไว้ ก็สบายใจไปเปาะหนึ่งแล้วครับ

  • Benz w123 แต่ง สวย คําไวพจน์
  • 8 การขับรถตอนกลางคืนอย่างไร ให้ปลอดภัย • เถ้าแก่ใหญ่
  • [ 10 วิธีขับรถยนต์อย่างไรให้ปลอดภัย ] รอดจากอุบัติเหตุในทุกสถานการณ์ !
  • ขับรถให้ปลอดภัย
  • วิธีหัดขับรถให้เป็นเร็ว สำหรับมือใหม่
  • 8 วิธีปรับท่านั่งขับรถทางไกลให้ถูกต้อง ไม่ปวดหลัง - Bolttech Blog - News & Updates
  • การ วัด ค่า ฝุ่น pm 2.5 เกิดจากอะไร
  • Let's her go แปล full
  • เกม ring fit ราคา 2020
  • ศูนย์รวมรถเหมา เหมารถไปต่างจังหวัด >0610546821
  • สื่อการเรียนรู้ รูปธงชาติ10ประเทศชาติอาเซียน [ฟรีไฟล์PPT+ไฟล์รูปภาพ] - ฟรีสื่อการเรียนรู้

การขับขี่รถทางไกล เป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างมาก 10 วิธีขับรถยนต์อย่างไรให้ปลอดภัย นี้จะช่วยให้คุณห่างไกลอุบัติเหตุ เดินทางและถึงที่หมายได้อย่างราบรื่น